ประวัติความเป็นมา Amazon
เป็นร้านหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่พานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่รู้จักเป็นอย่างดี Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทได้กลายเป็นแบบอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเอาดีในธุระกิจอินเตอร์เน็ต และจาการสำรวจของ Forbes ได้จัดอันดับให้ Jeff Bezos ติดอันดับคนที่รวยที่สุดในอเมริกาอันดับ 42 โดยมีทรัพสินย์ 4.8 พันดอนลลาร์สหรัฐ
Amazon เริ่มเปิดดำเนินการในเดือนกรกฏาคมปี 1995 โดยเริมจากการขายหนังสือผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทันทีที่ร้าน Amazon ประชาสัมพันธ์ตัวเองว่าเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีหนังสือให้เลือกซื้อได้ถึงกว่าล้านเล่ม การขายหนังสือผ่านอินเตอร์เน็ตทำให้ Amazon ประชาสัมพันธ์ตัวเองว่าเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีหนังสือให้เลือกซื้อได้มากกว่าล้านเล่ม การขายอินเตอร์เน็ตทำให้ Amazon ไม่จำเป็นต้องลงทุนในเรื่องพนักงานขายและร้านค้า และสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วจนในเดือนเมษายนปี 2000 Amazon มีลูกค้ารวม 20 ล้านคนจากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก
ต่อมา Amazon ได้เริ่มขยายตัวไปยังธุระกิจประเภทอื่นๆ โดยเปิดขายสินค้าประเภทดนตรี: CD ในเดือนมิถุนายนปี 1998 เปิดขายวิดีโอและของขวัญในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน ในปี 1999 Amazon ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไป โดยเปิดการประมุลสินค้าระหว่างบุคล และให้ผู้ขายปลีกรายย่อยสามารถมาั้งร้านภายใน Amazon ได้โยใช้ชื่อว่า zShops พร้อมกับเพิ่มสินค้าชนิดต่างๆ เข้าไปมากมาย จนปัจจุบัน Amazon ใช้สโลแกนว่า ประเภทสินค้าที่ Amazon ขายในปัจจุบันมีดังนี้ หนังสือ CD เพลง DVD วีดีโอ อุปกรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟแวร์ ของเล่น วีดีโอเกมส์ สินค้าสุขภาพและความงาม ศิลปะและของสะสม เครื่องครัว อุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสวน เครื่องมือใช้ในบ้าน และยังมีร้าน zShops ซึ่งมีผู้จัดจำหน่ายรายย่อยเข้าร่วมจำนวนมากและสินค้าที่ขายหลากหลาย พร้อมกับส่วนการประมูลหรือ Auction ซึ่งทำให้บุคคลธรรมดาสามารถนำสิงของของตนไปประมูลขายหรือหาซื้อสินค้าจากผู้อื่นได้
บริษัทมีรายชื่อหนังสือ เพลง ดีวีดี วีดีโอเทป เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่นเกมส์ และโปแกรมคอมพิวเตอร์ขายรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้าน รายการ Amazon ยังขายธุระกิจไปในต่างประเทศอีก 6 ประเทศ คือ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศล ญี่ปุ่น จีน แคนาดา
ในปี 1999 บริษัทมีลูกค้ามากกว่า 17 ล้านรายกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ มากกว่า 150 ประเทศ และมีรายได้จากการประกอบธุระกิจถึง 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 610 ดอลลาร์สหรัฐ และ 148 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1998 และ 1997 ตามลำดับ
สินค้า Amazon ที่มีการซื้อขายมาก ได้แก่ หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดี วีดีโอเทป เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์ ตุ๊กตา ของเล่นของที่ระลึก เครื่องแก้ว เครื่องประดับ และอื่นๆ
Organization Direction Development Vision
เป็นร้านค้าปลีกทางอินเตอร์ ที่ขายสินค้าทุกอย่าง ที่มีขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต
Mission ธุรกิจของเรา คือ ร้านค้าปลีกทางอินเตอร์เน็ต
ลูกค้าของเรา คือ ประชากรทั่วโลก ( Wold's population)
คุรค่าที่ทำให้ลูกค้า คือให้บริการในการขายสินค้าได้รวดเร็วที่สุด ง่ายที่สุด
ธุรกิจของเราควรเป็นอย่างไร
เป็นร้านค้าปลีกทางอินเตอร์เน็ตแก่ประชากรทั่วโลก โดยเป็นผู้นำในร้านค้าปลีกทางอินเตอร์เน็ต และให้การบริการในด้านการขายสิรค้าได้รวดเร็วที่สุด ง่ายที่สุด
" วิสัยทัศย์ของเรา คือ การเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาและค้นพบทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเค้าต้องการซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ต "
ซึ่งเป็นคำกล่าว Joe Galli, CEO ของ Amazon ได้ สรุปเอาแก่นของธุระกิจของ Amazon เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ธุรกิจของ Amazon ไม่ใช่เป็นเพียงการค้าปลีกธรรมดาเท่านั้น แต่คือการอำนวยให้ผู้คนต่างๆ สามารถค้นหาสินค้าที่ค้องการได้ดีที่สุด ไม่ว่าสินค้านั้น Amazon จะขายเองหรือเป็นสินค้าของผู้ขายใน zShops หรือส่วนการประมูล เพราะในที่สุดแล้ว Amazon ย่อมสามารถสร้่างรายได้จากการขายทุกประเภท ไม่ว่าจะในทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
ขั้นตอนในการประกอบธุระกิจ
ลูกค้าสามารถใช้เว็บไซต์ของ Amazon ในการสืบค้นรายชือสินค้า ราคา ผู้แต่ง สำนักพิมพ์ แลละข้อมูลอื่นๆ โดยยังไม่ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิก อย่างไรก็ตามลูกค้าอาจเลือกที่จะลงทะเบียนเป็นสมาชิกของ Amazon เลย เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การได้ลดส่วนลดพิเศษ และได้รับข้อมูลหนังสือและสินค้าอื่นๆ ที่อญุ่ในความสนใจ เป็นต้น ขั้นตอนการซื้อหนังสือผ่าน Amazon มีดังต่อไปนี้
1. เมื่อลงทะเบียนเป็นสมาชิกของ Amazon แล้ว ลูกค้าสามารถสืบค้นสินค้าต่างๆ ตามที่ต้องการ
2. เมื่อพบสินค้าที่ต้องการ ลูกค้าสามารถที่จะดูข้อมูลเบื้องต้นของสินค้า เช่น ผู้แต่ง ราคา สารบัญ คำนำ
บทวิจารณ์ และ สำนักพิมพ์ เป็นต้น
3. เมื่อลูกค้าตกลงใจที่จะซื้อสินค้าโดยการเลือกสินค้าใส่ตะกร้า ( Add to Cart) ลูกค้าจะต้องตรอกข้อมูลส่วน
ตัว อย่างไรก็ตามลูกค้าที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ไม่ต้องใช่ข้อมูลเพิ่มเติมอีก
4. เมื่อได้รับข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว บริษัทจะแสดงราคารงรวมค้ารวมทั้งหมดซึ่งรวมค่าส่ง
( Shipping and Handing ) และภาษี ( Tax ) โดยลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศไม่ต้องเสียภาษี
หลังจากนั้นลูกค้าจะต้องกรอกหมายเลขบัตรเครดิต
5. เมื่อลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะแจ้งรหัสการสั่งสินค้าให้แก่ลูกค้า เพื่อใช้อ้างอิงในการติดตามความ
ก้าวหน้าของการสั่งสินค้าแและจัดส่งสินค้า
6. เมื่อได้รับคำสั่งซื้อจากลุกค้า ข้อมูลการสั่งซื้อดั่งกล่าวจะถูกส่งให้ศูนย์กระจายสินค้าของ Amazon ซึ่งจะเป็นผู้
จัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า โดยการจัดส่งสินค้าจะใช้บริการจากบริษัทขนส่งพัสดุต่างๆ เช่น บริษัท UPS และ
ไปรษณีย์สหรัฐฯ เป็นต้น
7. ในกรณีที่ศูนกระจายสินค้าไม่มีสินค้าอยู่ในคลัง ข้อมูลการส่งซื้อจะถูกส่งอย่างอัตโนมัติไปยัง Supplier
ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งหนังสือรายใหญ่ เช่น InGram ให้จัดส่งสินค้าโดยตรงให้แก่ลูกค้า
Technology
Amazon ใช้เทคโนโลยีของ Oracle ทั้งโปรแรมประยุกต์เกี่ยงข้องกับการทำเว็บไซต์ ( Web Application ) ฐานข้อมูล ( Database ) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ( Human Resource ) และโปรแกรมบริหารระบบเงิน ( Finance ) โดยมีขนาดของ database ใหญ่เป็นอันดับที่ หก ของโลก
" จากบทความนี้จะเห็นได้ว่า ถ้าหากท่านทำการตลาดกับ Amazon ( Amazon Associates ) นั้นหมายความว่าท่านจะได้รับค่าตอบแทนแน่นอน เพราะความใหย่โตมีชื่อเสียงระดับโลกอย่างนี้ คงไม่คุ้มแน่หากจะโกงเศษ เงินของตัวเอง และอเทซอน ได้มองเห็นคุณค่าของเศษเงิน จึงได้เปิดโอกาสให้มีคำแนะนำสินค้าเพื่อแลกผลตอบแทน ( Commission ) นั่นเอง
ความหมายของ Affiliate Marketing หรือ Affiliate Program
ก่อนอื่น ขออธิบายความหมายของคำศัพท์เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันก่อน คำว่า Affiliate หมายถึงผูกพัน เข้าร่วม เป็นพี่น้องกัน หรือประกอบกิจการร่วมกัน แต่ในกรณีที่พูดถึงการค้าขายบนอินเตอร์เน็ตนั้น เราจะหมายถึง การสมัครเข้าร่วมธุรกิจหรือสมัครเป็นผู้ร่วมขาย ผู้ช่วยขาย หรือผุ้แทนขาย ซึ่งหากมีผู้ร่วมขายมากก็ยิ่งมีโอกาสขายสินค้านั้นๆออกไปได้มาก ในรายงานนี้จะเรียกธุรกิจประเภทที่เป็นผู้ร่วมจำหน่ายสินค้าว่า Affiliate Program หรือ Affiliate Marketing โดยใช้ภาษาไทยว่า “ผู้ร่วมขาย
เมื่อดูจากพฤติกรรมการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตในอเมริกาแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมมีธุรกิจประเภท Affiliate Marketing และมีผู้ที่ทำการตลาดออนไลน์เป็น “ผู้ร่วมขาย” ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเว็บไซต์และสินค้าใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้น นอกจากเราจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ (Product) หรือแบรนด์ (Brand) ของสินค้าแล้ว เราจะต้องคำนึงถึงช่องทางในการโฆษณาด้วย เพราะนี่คือหนึ่งในหัวใจของการตลาดประเภท Affiliate Program ช่องทางในการทำโฆษณาที่ผู้ทำการตลาดออนไลน์ประเภทนี้นิยมได้แก่ Pay Per Click Program หรือที่เรามักเรียกกันว่า PPC ยกตัวอย่างเช่นบริการ Google AdWords หรือ Yahoo Search Marketing (Y!SM) เป็นต้น
การซื้อสินค้าใน Amazon นั้น ผู้ซื้อสามารถเข้าไปซื้อโดยการสมัครเป็นสมาชิก หรืออาจจะซื้อผ่านผู้ร่วมขาย
การซื้อผ่านผู้ร่วมขายนี่เอง ทำให้เกิดช่องทางในการสร้างรายได้ เพราะผู้ร่วมขายจะกลายเป็นผู้ที่มีบทบาทในการขายสินค้าของ ถึงตรงนี้หลายๆคนคงอยากทราบแล้วว่า ถ้าต้องการเป็นผู้ร่วมขายสินค้ากับทาง Amazon จะต้องทำอย่างไร
สำหรับผู้ที่สมัครเป็นผู้ร่วมขายสินค้าใน Amazon เราจะเรียกว่า Associates ในภาษาไทยจะเรียกว่า ผู้ร่วมขาย
ทั้งนี้การสมัครเป็น Associates นั้นจะต้องสมัครโดยตรงกับทาง Website โดยการสมัครเป็นสมาชิก เราจะต้องเลือกประเทศว่าจะใช้ประเทศใดในการตลาดขึ้นอยู่กับสินค้าที่เราจะขายให้กับใคร คลอบคลุมเนื้อที่อะไรบ้าง โดยส่วนใหญ่แล้ว Amazon จะมีข้อมูลและสินค้าคล้าย ๆ กัน
เวลาเราเลือกสินค้าที่จะมาทำการตลาดนั้น เราก็เพียงแต่สนใจว่าเป็นสินค้าประเภทใด สินค้าเรียกว่าอย่างไร กลุ่มเป้าหมายคือใคร โดยไม่จำเป็นต้องไปศึกษาให้ลึกซึ้งขนาดว่า สินค้านั้นใช้งานอย่างไร เพราะผู้ซื้อสามารถไปหาอ่านรายละเอียดได้ด้วยตัวเอง หน้าที่ของเรามีเพียงแต่การนำลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ เท่านั้น
ส่วนในการทำโฆษณานั้น ก็สามารถดูตัวอย่างได้จากโฆษณาของผู้อื่น ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คัดลอกมา แต่ให้ดูว่าสินค้าอื่นๆนั้น ผู้โฆษณารายอื่นเขาเขียนโฆษณาว่าอย่างไร แล้วเราเอามาดัดแปลง เปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย
ภาพรวมของ Amazon
Amazon.com ได้ชื่อว่าเป็นเว็บไซต์ค้าปลีก หรือ webstore ที่ใหญ่ที่สุดในโลกออนไลน์ และยังคงภาพลักษณ์นั้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นับเป็นเวลากว่าสิบปีเศษ จากเว็บไซต์วีกิพีเดีย (www.wikipedia.com) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ประเภทสารานุกรม ถ้าสนใจเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด ก็สามารถเข้าไปค้นหาได้ โดยวิธีใช้งานไม่ยุ่งยากเลย เริ่มจากเปิด เริ่มจากเปิดเบราเซอร์เข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ www.wikipedia.com แล้วพิมพ์คำค้นหาว่า “Amazon” ก็จะพบเนื้อหาเกี่ยวกับ Amazon โดยง่าย
มูลค่าการตลาด (Market Value)
จากข้อมูลในการจัดอันดับธุรกิจประเภทค้าปลีกในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า Amazon เป็นร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจประเภทเดียวกัน ด้วยยอดขายรวมการจำหน่ายสินค้าในปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) เท่ากับ 10.710 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การขนส่งสินค้า ( Product Shipping )
โดยปกติแล้วสินค้าที่มีการสั่งซื้อในแต่ละวันทาง Amazon จะทำการจัดส่งให้ผู้ซื้อภายในวันนั้น ๆ แต่ก็มีสินค้าชนิดหลาย ๆ ชนิดและ หลายยี่ห้อ ที่ไม่ได้เป็นสินค้าของ Amazon ไม่มีสินค้านั้นอยู่ในสต็อก จึงทำให้การขนส่งนั้นล่าช้า เลื่อนออกไปหลายวัน
ดังนั้น รายการสินค้าที่มีการสั่งซื้อเกิดขึ้น ผู้ร่วมขายจะยังไม่ได้รับค่า คอมมิสชั่นชั้นๆ จนกว่าจะมีการส่งสินค้าชนิดนั้น ๆ ออกไปทาง Amazon จึงจะตอบแทนค่า คอมมิสชั่น นั้นๆ ให้
ประเภทของการขนส่งสินค้าใน Amazon
การขนส่งสินค้าใน Amazon มีหลายประเภทตามความต้องการของผู้ซื้อ โดยเราสามารถแบ่งได้ 3 ประเภทคือ
1. ส่งแบบธรรมดา การส่งของประเภทนี้ ผู้ซื้อจะเป็นผู้จ่ายค่าขนส่งเอง โดยจะจ่ายเพิ่มตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้
2. Free Super Saver Shipping คือการส่งสินค้าถึงมือผู้รับโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ กรณีนี้ผู้ซื้อจะได้รับสิทธิก็ต่อเมื่อ มีการซื้อสินค้าราคา 25$ ขึ้นไปหรือเป็นไปตามข้อกำหนดอื่น ๆ ตามเงื่อนไขที่ทาง Amazon หรือ Third Party ได้ระบุไว้ แต่โดยทั่วไปจะมีข้อกำหนดเพียงสองข้อคือ จะต้องมีการซื้อสินค้าราคา 25$ ขึ้นไป และที่อยู่ในการจัดส่งเป็นประเทศอเมริกาเท่านั้น จึงจะจัดส่งให้ฟรี ง นอกจากนี้แล้วหากผู้ซื้อได้ทำการซื้อขายหลาย ๆ รายการบางรายการจะจัดส่งในขณะที่บางรายการไม่ตรงตามเงื่อนไข และไม่สามารถใช้บริการฟรีค่าจัดส่งได้ ในกรณีที่ส่งถึงผู้รับคนเดียวกันและสถานที่ที่ระบุไว้จัดส่งเป็นที่เดียวกัน เราสามารถกำหนดให้มีการจัดหีบห่อให้น้อยกล่องมากที่สุดเพื่อประหยัดค่าขนส่งให้มากที่สุด โดยสามารถระบุความต้องการนี้ได้ในขั้นตอนของการชำระเงิน
แต่การจัดส่งวิธีนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ จะต้องส่งไปยังที่อยู่ใดที่อยู่หนึ่งในประเทศอเมริกาเท่านั้น กล่าวคือ ผู้ซื้อไม่สามารถขอให้ส่งไปยังที่อยู่อื่น ๆ ใน ประเทศอเมริกาเกินกว่าหนึ่งแห่งได้ และสินค้าที่ซื้อไม่สามารถเอาราคาของสินค้ารวมกันเพื่อให้มีมูลค่าเกิน 25 $ ได้
การขนส่งสำหรับสมาชิกที่เป็น Amazon Prime
Amazon Prime คือบริการพิเศษสำหรับสมาชิกของ Amazon โดยเสียค่าลงทะเบียนรายปี 79 $ ก็จะได้รับสิทธิพิเศษเกี่ยวกับการขนส่งต่าง ๆ จาก Amazon เช่น หากผู้ซื้อสั่งสินค้าที่เป็นการขนส่งแบบปกติและสินค้าจะส่งถึงมือผู้ซื้อประมาณ 4 – 5 วัน แต่การขนส่งสินค้าตามสิทธิ์ของ Amazon Prime จะช่วยให้ผู้ซื้อได้รับสินค้าภายใน 2 วันทำการเท่านั้น
แต่ถ้าต้องการจะให้ส่งแบบเร็ว พิเศษยิ่งไปกว่านั้น ก็จะต้องเสียค่าขนส่งเพิ่มอีก .399 $ และจะจัดส่งก่อนเวลา 18.00 น. เพียงเท่านี้ผู้ซื้อก็จะได้รับสินค้าในวันรุ่งขึ้นทันที
นอกจากนั้น Amazon Prime ยังไม่มีการกำหนดมูลค่าขั้นต่ำของสินค้าที่สั่งซื้ออีกด้วย หมายความว่า สั่งซื้อของในราคา 1 $ ทาง Amazon ก็จะจัดส่งให้ฟรี ไม่เหมือนโดยทั่วไปตรงที่การส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนั้น ผู้ซื้อจะต้องสั่งสินค้ามูลค่า 25 $ ขึ้นไป ยกเว้นในกรณีพิเศษหรือ โปรโมชั่น สำคัญ ๆ
แล้วสิทธิ์พิเศษ Amazon Prime นี้ก็ยังสามารถสมัครเพิ่มให้กับสมาชิกอื่น ๆ ซึ่งมี นามสกุลเดียวกันแม้จะอยู่กันคนละบ้านได้ รวมทั้งหมด 4 คน ต่อ 1 บัญชี Amazon แต่สิทธิ์นี้ใช้ได้กับ ผู้ที่อยู่ประเทศอเมริกาเท่านั้น
เนื่องจากเรื่องของการขนส่ง เราในฐานะผู้ร่วมขายสินค้าของ Website Amazon อาจจะไม่มีความจำเป็นจะต้องศึกษารายละเอียดให้มากมายจนเกินไป เพราะผู้ซื้อโดยส่วนใหญ่ทราบแล้วว่า การขนส่งและค่าขนส่งของสินค้าใน Amazon มีอัตราที่สมผล และผู้ซื้อมักเปรียบเทียบเฉพาะราคาของสินค้ามากกว่าค่าขนส่ง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าทาง Amazon เอง ก็พยายามจะหาบริการรูปแบบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้ออยู่เสมอจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมสินค้าของ Amazon จึงมียอดขายอย่างต่อเนื่องและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลที่คนส่วนใหญ่จะหาของขวัญให้กัน ร้านค้า Online อย่าง Amazon ในทุก ๆ ประเทศจะได้รับการสั่งสินค้าในปริมาณที่มากกว่าช่วงเวลาปกติ ดังภาพเป็นการบันจุหีบห่อและจัดส่งในเทศกาล Christmas และปีใหม่ จะเห็นได้ว่า มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จริง ๆในช่วง
ราคาสินค้าของ Amazon
ในบางครั้งผู้ซื้ออาจจะซื้อสินค้าไปในราคาถูกกว่าราคาที่เราเห็น เช่น ในรายการประจำวันสรุปการขายสินค้าของเราแสดงว่า เราขายสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งออกไปได้ เมื่อ เราได้การตรวจสอบราคาตามรายงานผล ซึ่งในเบื้องต้นจะแสดงเป็นลิงค์ของสินค้าที่ขายได้ และพบว่ามีราคา 100 $ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ซื้ออาจจะเป็นสมาชิก ของ Amazon ทำให้สามารถใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าในราคา 95 $ หรือผู้ซื้อใช้สิทธิ์ลดราคาจากการใช้บัตรของขวัญ หรือเลือกที่จะซื้อสินค้า มือสอง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ราคาสินค้าที่จะเอามาคำนวณค่า คอมมิสชั่น จึงอาจจะใช่หรือไม่ใช่ 100 $ ก็ได้ ดังนั้นเราจะทราบราคาแท้จริงของสินค้าที่ขายได้ก็ต่อเมื่อทาง Amazon รายงานผลสินค้าที่ขายได้ และ สรุปยอดค่า คอมมิสชั่น
ทั้งนี้ราคาสินค้าที่แสดงใน Amazon นั้นแบ่งออกเป็น ราคา สินค้าใหม่และราคาสินค้าที่ใช้แล้ว เมื่อเราเลือกดูสินค้าใด ๆ เราจะเห็นว่าข้อมูลของสินค้า ราคา และรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งดูจากตัวอย่าง ดัง ภาพ เป็นนาฬิกา ยี่ห้อ Seiko ราคา ปกติ 250 $ แต่ราคาที่ขาย คือ 141.72$ ค่าส่งฟรี เมื่อเทียบกับราคาปกติแล้ว ประหยัดได้ถึง 108.28 $
การคืนสินค้า ( Return )
สินค้าใน Amazon นั้นจะมีการรับประกันความพึงพอใจและรับสินค้าภายในเวลาที่กำหนด แต่จะเป็นกี่วันนั้นขึ้นอยู่กับรายละเอียดซึ่งจะระบุในสินค้าแต่ละประเภท
การที่ทาง Amazon มีเงื่อนไขการรับประกันความพึงพอใจนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งในการส่งเสริมการขายและเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ซื้อ เนื่องจากผู้ซื้อเองจะมีความรู้สึกว่า เมื่อซื้อสินค้าไปแล้วหากไม่พอใจ ก็สามารถรับคืนสินค้าและรับเงินคืนได้
ดังนั้นเราอาจจะพบว่า ในบางครั้งเราจำหน่ายสินค้าได้และทาง Amazon มีการคิดค่าคอมมิสชันให้เรียบร้อยแล้ว แต่ในเวลาต่อมาทาง Amazon ได้ขอคืนค่าคอมมิสชันนั้นจากเรา เนื่องจากทางผู้ซื้อมีการคืนสินค้ากลับมา
วิธีและขั้นตอนในการสมัครเป็นผู้ร่วมขาย
มาถึง วิธีและขั้นตอนในการสมัครเป็นผู้ร่วมขาย หรือ Amazon Associates
เริ่มจากเปิดบราวเซอร์ พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ www.amazon.com ก็จะพบหน้าตาของเว็บไซต์เมื่อคุณผู้อ่านเลื่อนลงมาบริเวณด้านล่าง จะพบรายละเอียดมากมายของ Amazon
0ากภาพเป็นการเข้าสมัคร Associates
ให้เลือกที่ Apply now เพื่อเข้าสู่รูปแบบฟอร์มการลงทะเบียน
เข้าสู่ขั้นตอนการสมัครที่ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เริ่มต้นจากการกรอกอีเมลล์ที่เราต้องการใช้ในการติดต่อกับทาง Amazon และเลือกที่ No, I am a new customer. เพื่อยืนยันว่าเราเป็นผู้สมัครใหม่ เสร็จแล้วคลิก Sign in using our secure server จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนกรอกรายละเอียด ต่าง ๆ ดังภาพ
สำหรับหน้านี้เราจะต้องกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, นามสกุล, อีเมลล์, พิมพ์ชื่ออีเมลล์อีกครั้งเพื่อการยืนยัน ในส่วนของวันเดือนปีเกิดนั้นจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ (optional) จากนั้นก็ใส่รหัสผ่านที่ต้องการใช้ โดยพิมพ์รหัสผ่านสองครั้งเพื่อยืนยันเช่นกัน
ซึ่งอีเมลล์นี้จะเป็นการยืนยันจากทาง Amazon ว่า การสมัครเป็นผู้ร่วมขายสินค้าของ Amazon ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้เขียนขอแนะนำให้เก็บอีเมลล์ที่ได้รับจาก Amazon ไว้ทุกฉบับ เพื่อประโยชน์ในการอ้างอิงภายหลัง
Amazon Associates ID เป็นรหัสที่ระบบของ Amazon ตั้งให้โดยอัตโนมัติ สำหรับสมาชิกผู้ร่วมขายสินค้าให้กับ Amazon ทุกคน โดยจะมีตัวเลขห้อยท้ายต่าง ๆ กันไปในแต่ละสาขาของ Amazon แต่ละประเทศค่ะ เช่น -20 สำหรับสมาชิกที่ทำการตลาดของ Amazon.com หรือ -21 สำหรับสมาชิกในประเทศอังกฤษ Amazon.co.uk เป็นต้น
ข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Associates ID คือ คุณผู้อ่านควรเก็บไว้เป็นความลับพอสมควร ไม่ควรเปิดเผยต่อผู้อื่น เนื่องจากว่าอาจจุมีผู้ไม่หวังดีบางรายเอา Amazon Associates ID ของเราไปใช้ทำอย่างอื่น ซึ่งอาจจะผิดกฎของ Amazon จนทำให้เราถูกระงับการใช้งานก็เป็นได้
ประโยชน์
1. สามารถขายสินค้าได้ในราคาถูกกว่า Website อื่น ๆ
2. มีส่วนลดมากกว่า
3. เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการ ออกไปข้างนอกสามารถดูข้อมูลได้เลย จาก Website
4. เป็นร้านขายสินค้าที่ Online ตลอด 24 ชั่วโมง
5. ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าทั่ว ๆ ไป
6. ไม่ต้องคำนึงถึงด้านการจัดส่ง เพราะมีบริการจัดส่งฟรี
7. มีการจัดโปรโมชั่น ต่าง ๆมากมาย ซึ่งตามร้านขายของทั่วไป มีจำนวนน้อยที่จะมีการจัดโปรโมชั่น
8. มีการทำงานที่ง่ายของ ระบบ Website สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ถูกต้อง
9. ประหยัดเวลาในการ Shopping
10. สมัครง่าย
11. ง่ายต่อการใช้ข้อมูลสินค้า
12. สามารถเลือกดูสินค้าได้ง่าย
สรุป
Amazon ก็คือ Website ชนิดหนึ่งซึ่งใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า Online ผ่านระบบ Internet โดยใช้กันทั่วโลกสามารถลืบค้นข้อมูล ในระบบ Internet ได้ด้วย มีลูกค้าในระบบสมาชิกจำนวน 160 ประเทศทั่วโลก โดยระบบของ Amazon จะทำการจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อสินค้า สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมากและช่วยให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้าในระบบ
ประเภทของสินค้าที่ Amazon ขายในปัจจุบันมีดังนี้ หนังสือ CD เพลง DVD วิดีโอ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ ของเล่น วิดีโอเกมส์ สินค้าสุขภาพและความงาม ศิลปะและของสะสม เครื่องครัว อุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสวน เครื่องมือที่ใช้ในบ้าน และยังมีร้าน Shops ซึ่งมีผู้จำหน่ายรายย่อยเข้าร่วมจำนวนมากและมีสินค้าที่ขายอยู่อย่างหลากหลาย พร้อมกับส่วนการประมูลหรือ Auction ซึ่งทำให้บุคคลธรรมดาสามารถนำสิ่งของของตนไปประมูลขายหรือหาซื้อสินค้าจากผู้อื่นได้
และ amazon ใช้เทคโนโลยีของ Oracle ทั้งโปรแกรมประยุกต์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำเว็บไซต์ (Web Application) ฐานข้อมูล (Database) การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) และโปรแกรมบริหารระบบการเงิน (Finance) นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น